เขาพระวิหาร ( เขมร : ភ្នំព្រះវិហារ ) หรือที่มักจะรู้จักกันในชื่อว่า “ปราสาทเขาพระวิหาร” ตั้งอยู่ที่เทือกเขาพนมดงรักซึ่งจะเป็นในเขตพื้นที่ทับซ้อนของชายแดนไทยและกัมพูชา เป็นที่ซึ่งเป็นแหล่งที่ถือว่าศักดิ์สิทธิ์ที่ในยุคของกษัตริย์ชัยวรมันที่ 2 นั้นต่างนับถือเป็นอย่างมากและได้เรียกกันว่า ภวาลัย แต่ต่อมาได้มีชื่อปรากฏขึ้นมาในจารึกที่เป็นภาษาสันสฤตว่า ศรีศิขรีศวร ที่หมายถึงว่า ผู้เป็นใหญ่แห่งภูเขาอันประเสริฐ ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ.1432-1443 ซึ่งเป็นยุคของพรเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ที่ได้ทรงโปรดให้มีการสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์รวมที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านแถวละแวกนั้นนั่นเอง
เรียกได้ว่า ปราสาทเขาพระวิหาร ( อังกฤษ : Temple of Preah Vihear ) เป็นที่ซึ่งมีความสวยงามที่ตั้งอยู่เป็นสง่าอยู่บนยอดเขาพนมดงรักที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 657 เมตรยาว 800 เมตรที่ยังมีบันไดที่สูงไปจนถึงบนยอดเขา ที่แห่งนี้ยังรายล้อมไปด้วยหมู่เทวาลัยและยังมีปราสาทหินหลากหลายมากมายที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นการถวายต่อพระศิวะ ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 9 ได้มีการสร้างปราสาทหินขึ้นมาเป็นที่แรก ถือได้ว่าปราสาทแห่งนี้ได้รวมสถาปัตยกรรมที่งดงามเอาและยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเหล่าผู้คนที่เรียกว่า “ขะแมร์กัมพูชา” หรือว่า ขอม นั่นเอง ปราสาทได้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยศิลาแลงและหินทรายที่สร้างมายาวนานกว่า 300 ปี นับตั้งแต่ในช่วงของ สุริยวรมันที่ 1 มาจนถึงสุดท้าย
ในช่วงของทางเข้าไปสู่ปราสาทประธานจะมี โคปุระอยู่ถึง 5 ชั้นด้วยกัน แต่ก่อนปราสาทแห่งนี้ได้นับว่าอยู่ในเขาของการปกครองของประเทศไทยแต่เมื่อปี 2442 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าชุมพลสมโภช กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ได้เดินทางมายังที่แห่งนี้จึงได้มีการตั้งชื่อขึ้นมาว่า “ปราสาทพระวิหาร” แต่เมื่อปี 2450 จักรวรรดินิยมฝรั่งเศล ได้มีการอาศัยแศนยานุภาพของทหารได้บังคับให้ทางรัฐบาลของไทยนั้นเขียนแผนที่ที่มีการกำหนดให้เขาพระวิหารตกอยู่ในดินแดนของกัมพูชา ซึ่งทำให้ในแผนที่ใหม่ได้ตกอยู่ในฝั่งของทางกัมพูชา
แต่กระนั้นแล้วคนไทยก็ยังจะสามารถที่จะเดินทางเข้าไปยังปราสาทเขาพระวิหารได้ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2502 ทางด้านของเจ้านโรดมสีหนุที่อยู่ภายใต้การหนุนของทางฝรั่งเศลได้ทำการยื่นฟ้องกับศาลโลกเพื่อให้ไทยถอนทหารออกจากเขาพระวิหารและเมื่อ 15 มิ.ย. 2505 ศาลได้ทำการตัดสินให้เขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา
เขาพระวิหาร ประกอบไปด้วย …
- บันไดดินที่อยู่ช่วงด้านหน้าของปราสาทซึ่งจะเป็นทางที่สามารถเดินขึ้นลงได้ มีขนาดกว้าง 8 เมตร ยาว 75.50 เมตรมี 162 ขั้น
- สะพานนาคราช ที่ถูกปูไว้ด้วยแผ่นหินเรียบ ช่วงของสองข้างนั้นจะมีนาคราชช่วงฐานมีนาคราช 7 เศียรอยู่ 2 ตัว มีลักษณะที่คล้ายกับงูที่เป็นในรูปแบบของศิลปะขอม
- โคปุระ/ซุ้มประตูชั้นที่ 5 มีภาพวาดของปามังติเอร์ ที่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นศาลาจัตุรมุข มีซุ้มประตูอยู่รอบทั้ง 4 ทิศ มีรูปสิงห์นั่งอยู่ และเสาโคปุระในรูปแบบของศิลปะเกาะแกร์
- โคปุระ/ซุ้มประตูชั้นที่ 4 นับได้ว่าเป็นผลงานของอุของปราสาทเขาพระวิหาร
- โคปุระ / ซุ้มประตูชั้น 3 นับว่าเป็นโคปุระที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
- โคปุระ / ซุ้มประตู ชั้นที่ 2 ถูกสร้างขึ้นมาเป็นศาลาจัตุรมุข ที่จะมีกำแพงทิศใต้แต่ด้านเดียวอยู่ช่วงของไหล่เขาทางเหนือของโคปุระชั้นที่ 2
- โคปุระ /ซุ้มประตูชั้นที่ 1 มีบันไดทางขึ้นโคปุระ ชั้นที่ 1 ที่จะเป็นบันไดหิน
- สระสรง อยู่ทางทิศตะวันออกของทาง มีสระน้ำรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าถูกกรุไว้ด้วยหินเรียกกันเป็นชั้น ๆ เหมือนกับขั้นบันไดที่แห่งนี้ใช้เป็นที่ชำระร่างกายก่อนที่จะเข้าไปทำพิธีต่าง ๆ ทางศาสนา
- เป้ยตาดี ที่หมายถึง ชะง่อนผาหรือโผงผา
ปัจจุบันนี้ประสาทเขาพระวิหารได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นับได้ว่าสำคัญของทั้งคนไทยและกัมพูชา มีเนื้อที่ทั้งหมด 81,250 ไร่ เมื่อปี 2504 ได้มีการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 83 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย