วัดระฆัง โฆสิตารามวรมหาวิหาร เดิมมีชื่อว่า วัดบางหว้าใหญ่ ซึ่งเป็นวัดที่เก่าตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา โดยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ทรงฐานะให้ขึ้นมาเป็นพระอารามหลวง จนมาในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้มีการขุดพบระฆังโบราณ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผู้คนจึงได้เรียกกันว่า วัดระฆัง และรัชกาลที่ 1 ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้นำไปไว้ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งมีสิ่งที่สำคัญของทางวัดแห่งนี้คือ ตำหนักทอง ที่อดีตกาลเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีและสมเด็จพระสังฆราช(ศรี)
ตำหนักจันทน์ หรือ หอไตร ที่แต่ก่อนแคยเป็นพระตำหนักและหอประทับนั่งของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และเมื่อพระองค์ได้ขึ้นครองราชย์ได้ทรงรับสั่งให้มีการปฏิสังขรณ์เพื่อใช้เป็นหอพระไตรปิฏก ทรงให้ขุดพื้นที่ที่พบระฆังออกให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมและก่ออิฐกั้นขึ้นมาเป็นสระและทรงรับสั่งให้รื้อตำหนักเดิมมาปลูกในสระ ทรงให้มีการสมโภชและปลูกต้นจันทน์ไว้ 8 ต้นจึงได้ขนานนามว่า ตำหนักจันทน์ นั่นเอง
เรียกได้ว่าวัดแห่งนี้มีความงดงามยิ่งโดยเฉพาะ หอพระไตรปิฏก ที่ในอดีตอยู่กลางสระ สร้างขึ้นมาเป็นเรือนแฝด 3 หลังที่ใช้ไม้ที่รื้อจทากตำหนักเดิมของรัชกาลที่ 1 ในส่วนของด้านนอกที่ทาด้วยสีดินแดง ภายในมีภาพเขียนฝีมืออาจารย์นาค บานประตูที่มีการเขียนด้วยลวดลายรดน้ำและแกะสลักและมี ตู้พระไตรปิฏก ลายรดน้ำในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ผู้คนมักนิยมแวะเวียนมากราบไหว้พระประธานและชมความสวยงามของภาพจิตรกรรมฝาผนัง / กราบไหว้และปิดทองรูปหล่อ พระสมเด็จพระพุฒาจาย์ โต พรหมรังสี เดินชมตำหนักจันทร์ หอไตรและยังมีบริเวณท่าน้ำที่สามารถทำบุญปล่อยสัตว์น้ำได้ด้วย วัดเปิดทำการทุกวัน 08.00-17.00