วัดมหาธาตุ อยุธยา ที่ตั้งอยู่เชิงสะพานป่าถ่านทางทิศตะวันออกของวัดพระศรีสรรเพชญ์และยังมีสิ่งที่โดดเด่นของที่นี้ก็คือ เศียรพระพุธรูปกว่าร้อยปีในรากไม้โดยที่เศียรพระพุทธรูปเป็นพุทธรูปหินทรายเหลือแค่ส่วนเศียร แต่ส่วนขององค์พระนั้นได้หายไปแล้ววางอยู่ในรากโพธิ์ข้างวิหารถือได้ว่าเป็นความงดงามจนทำให้ใคร ๆ ก็อยากที่จะมาเห็นจนทำให้วัดนี้กลายเป็นวัดที่มีชื่อเสียงร่ำลือและโด่งดังไปทั้งในและต่างประเทศ
ในอดีตได้มีการกล่าวกันเอาไว้ว่าวัดนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในสมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 และในเวลาต่อมาสมเด็จพระราเมศวรโปรดเกล้าฯให้ได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ใต้ฐานพระปรางค์ประธานเมื่อปี พ.ศ. 1927 ต่อมสมเด็จพระเจ้าปราสาททองได้มีรับสั่งให้ทรงปฎิสังขรณ์พระปรางค์ใหม่โดยที่รับสั่งให้ทำสูงกว่าของเดิมแต่ในปัจจุบันนี้ยอดได้พังลงและเหลือแค่เพียงชั้นมุขเท่านั้น
เมื่อปี พ.ศ. 2499 กรมศิลปากรได้มีการขุดพบของโบราณ เช่น เงินนาก ไม้จันทร์แดง ทองคำชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและยังมีเครื่องประดับอันล้ำค่าในเวลาต่อมาได้มีการนำพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา
วัดมหาธาตุ อยุธยา มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง เช่น พระปรางค์ขนาดใหญ่โดยที่ฐานของพระปรางค์มีรูปของหมี หงส์ ราชสีห์ นกยูง โค สุนัขป่า กระบือ มังกรเรียงกันอยู่รอบ ๆ นั่นหมายถึงว่าเป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์ มีเจดีย์แปดเหลี่ยม วิหารที่ฐานชุกชี วิหารเล็ก พระปรางค์ขนาดกลางและ ตำหนักพระสังฆราช