พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อุทยานมังกรสวรรค์ สุพรรณบุรี ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยเราและทางด้านของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 20 ปี
และยังเป็นความต้องการของนายบรรหาร ศิลปะอาชา ในช่วงที่ได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั่นเองเรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดสุพรรณบุรีที่ผู้คนนิยมเดินทางมาเยือนที่แห่งนี้กันอย่างไม่ขาดสายยิ่งโดยเฉพาะในวันหยุดที่จะมีผู้คนต่างก็หลั่งใหลมากันเป็นจำนวนมากทีเดียว
ในส่วนของภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ที่จะมีการจัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจีนที่ถูกแบ่งออกมาเป็น 18 ห้องด้วยกันซึ่งแต่ละห้องก็มีความแปลกแตกต่างกันออกไปทั้งภาพ แสงสีเสียงต่าง ๆ ที่บอกเลยว่าสวยงาม น่าสนใจมากยิ่งนัก
ทางด้านของประเทศจีนที่เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ต่าง ๆ มากมายมายาวนานรวมไปถึงเป็นชนชาติที่มีอารยะธรรมที่ยาวนานหลายพันปีตั้งแต่ในช่วงสมัยของเสินหนง ได้ถูกก่อตั้งให้เป็นชนหัวหน้าเผ่าแซ่เจียงและได้เป็นผู้ซึ่งคิดค้นการประดิษฐ์คันไถด้วยไม้รวมไปถึงคิดค้นเกี่ยวกับยาสมุนไพรนานาชนิดและยังได้ทำการให้ความรู้และสอนให้ประชาชนได้รู้จักกับการทำไร่ไถนา ปลูกข้าวด้วย
เมื่อได้เข้ามาสู่ในช่วงยุคโบราณที่ได้มาการสืบกษัตริย์สายพันธ์มังกร ยุคของราชวงค์เซี่ย ,ราชวงค์ซาง ,ราชวงค์โจวจนกระทั่งมาถึงในยุคของเลียดก๊ก ซึ่งมีถึง 7 ก๊กใหญ่ด้วยกันที่ได้มีการครองอำนาจจิ๋นซีฮ่องเต้ เป็นจักรพรรดิองค์แรก มาถึงในยุคของราชวงคืฮั่นซึ่งเรียกได้ว่าเป็นุยคที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากและยาวนานที่สุดของชนชาติจีนเลยก็ว่าได้
ส่วนยุคสามก๊ก , ราชวงค์ถัง, ราชวงศ์หยวนที่ได้มีการถูกปกครองโดย จักรพรรดิ กุบไลข่าน ผู้ซึ่งเป็นชาวแมนจู จวบจนเวลาล่วงเลยผ่านไปจักรพรรดิองค์ต่อ ๆ มาก็เริ่มมีการกดขี่ช่มเหงชาวจีนถึงขั้นที่เรียกได้ว่าหนักหนามากทีเดียวจนส่งผลทำให้เกิดการกบฏ ทำให้ทางด้านของจูหนวนจางได้ทำการรวบรวมและได้ก่อตั้งราชวงค์หมิง ขึ้นมา
เมื่อสมัยราชวงค์ซิลที่ถือได้ว่เป็นราชวงค์ของเผ่าแมนจู ปูยีที่ถือว่าเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายก่อนที่จะมีการสถาปนาให้มาเป็นระบบสาธารณรัฐ ทางด้านของ ดร.ซุนยัดเซ็น ได้ทำการยึดอำนาจจากจักรพรรดิพร้อมกับได้มีการสถาปนาระบบประชาธิปไตย
ต่อมาในภายหลังที่ทางด้านของซุนยัดเซ็นได้เสียชีวิตลงและนั่นเองก็เป็นเวลาแห่งการชิงอำนาจระหว่างฝั่งของประชาธิปไตยนำโดย เจียงไคเช็ค และทางฝั่งคอมมิวมิสต์ที่นำโดย เหมาเจ๋อตุง ท้ายที่สุดทางทางฝั่งของเหมาเจ๋อตุงก็เป็นฝ่ายชนะ ส่งผลให้ทางด้านของเจียงไคเช็คได้หนีไปยังเกาะไต้หวัน ทั้งนี้จึงได้มีการสถาปนาสาธารณรัฐจีนขึ้นมาแทนจนกระทั่งมาถึง ณ เวลานี้
ภายในพิพิธภันฑ์แห่งนี้โดยเริ่มกันที่ห้องแรกที่จะมีให้ได้ชมแสง สีเสียงของ ผ่านกู่ ผู้ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตำนานผู้สร้างโลกของชาวจีนและให้ได้เดินชมความสวยงามในยุคราชวงค์ต่าง ๆ ที่เรียกได้ว่ามีความงดงามรวมไปถึงยังมีห้องฉายภาพยนตร์ ,ห้องจำหน่ายหนังสือ ,ห้องรับฝากของมีให้ได้เดินเลือกซื้อของที่ระลึก , ห้องนั่งเล่น
ในส่วนบริเวณด้านนอกที่จะมีในรูปปั้น , ระฆังยักษ์ รวมไปถึงน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่บอกเลยว่าสวยงามมาก ๆ เรียกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นหนึ่งสถานที่มหัศจรรย์เมืองไทยที่ควรค่าแก่การมาเยือนอย่างยิ่ง
ภาพจาก : www.suphan.biz